bookwrite.gif (18440 bytes)thumma.gif (4215 bytes)
      คนหูเบา
            มีสามีภรรยาคู่หนึ่ง สามีชื่อว่า คุณพินิจ   ภรรยาชื่อว่า คุณใคร่ครวญ   มีความรักใคร่ปรองดองสามัคคีกันเป็นที่สุด   สามีจะรักและกลัวภรรยามาก ภรรยาก็รักและกลัวสามีมาก   คำว่ากลัวนั้น  หมายถึง กลัวเขาหิว  กลัวเขากระหาย   กลัวเขาหนาว กลัวเขาร้อน   กลัวเขากลุ้มใจ กลัวเขาเสียใจ กลัวเขารอนาน เป็นต้น    เมื่อกลัวแล้วก็รีบทำในสิ่งที่ไม่ต้องกลัว   จนชาวบ้านระแวกนั้น   กล่าวคำสรรเสริญกันว่า   ถ้าจะเป็นสามีและภรรยาที่ดี ต้องเป็นเหมือนคู่ของคุณพินิจและคุณใคร่ครวญ    เมื่อเมื่อพิธีแต่งงานในหมู่บ้าน   นั้น ชาวบ้านจะเชิญคู่สามีภรรยาคู่นี้ไปทำพิธี   ปูที่หลับปัดที่นอน โรยดอกกุหลาบ โดยถือว่า   สามีภรรยาคู่ใหม่จะได้เป็นคู่รักที่มีความ   รักต่อกันเหมือนกับคู่ของคุณพินิจ และคุณใคร่ครวญ
                        ต่อมาเกิดเหตุร้ายแก่ครอบครัวของคุณพินิจ คงจะเป็นด้วยกรรมเก่ากระมัง    วันหนึ่งคุณพินิจและคุณใคร่ครวญ เดินข้ามถนน   จะด้วยเหตุใดไม่ทราบ    รถบรรทุกคันหนึ่งวิ่งมาด้วยความเร็วโดยไม่ทันดูว่า   ทางม้าลายข้างหน้ามีคนกำลังข้ามอยู่    ไม่ทันการณ์เสียแล้ว   คุณพินิจเป็นว่ารถจะต้องชนภรรยาตนอย่างแน่นอน   จึงตัดสินใจกระโดดผลักภรรยาออกให้พ้นรัศมีของการชน    ปรากฎว่า   คุณใคร่ครวญรอดตาย แต่ว่าคุณพินิจนั้นขาดใจตายทันที

b1.gif (5548 bytes)

b2.gif (6367 bytes)

          โศกอันใดหนอจะยิ่งใหญ่ เท่ากับการพลัดพรากจากกัน ความตายนี้ ช่างไม่มีวันที่ผลัดผ่อนได้เลย    ความรัก  ความเคารพ  ความ อาดูร   ก็พรั่งพรูเข้ามาสู่หัวใจของคุณใคร่ครวญอย่างท่วมท้นสุดที่จะหักห้ามได้เลย   ได้แต่ตะโกนอย่างสุดเสียง และวิ่งถลาเข้าไปกอด ร่างอันไร้วัญญาณ ของสามีสุดที่รัก   ปากก็พร่ำพรรณาถึงความดีของสามี   เสียงแจ้งเหตุการเกิดอุบัติเหตุ   ดังลั่นออกมาจาก สถานีวิทยุ   จ.ส.100  รถบรรเทาสาธารณภัย มูลนิธิ  ป่อเต็กเซียงตึ๊ง   ต่างก็บ่ายหน้าไปยังที่เกิดเหตุ    แต่แล้วก็ไม่มีเจ้าหน้าที่ท่านใดจะสามารถ   นำศพออกมาจากที่เกิดเหตุได้   เนื่องจากว่า คุณใคร่ครวญแกกอดศพของสามีสุดที่รักไม่วางเลย และไม่ยอมให้ใครมาแตะต้อง   เจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันพูดอยู่เป็นนานสองนาน   แกจึงยอมให้เจ้าหน้าที่ปอเต็กตึ๊ง   นำศพของคุณพินิจไปโรงพยาบาลตำรวจ เพื่อชันสูตร  ศพ   ขณะที่ศพของคุณพินิจ   ถึงโรงพยาบาลแล้ว   เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลก็กลุ้มใจไปตาม ๆ กันเนื่องจากว่า   ไม่สามารถ เอาศพลงจากรถ ได้   เพราะว่าคุณใคร่ครวญแกไม่ยอมปล่อยศพ   แกกอดของแกมาจนตลอดทาง   เจ้าหน้าที่ต้องอธิบายกันนาน สองนานเช่นเดียวกัน   ในที่สุดเธอก็ยอมให้เจ้าหน้าที่นำศพของ คุณพินิจไปทำการผ่า    เมื่อผ่าพิสูจน์เสร็จแล้ว   คุณหมอทั้งหลายก็พากันยิ้ม และพูดว่า  เอ้า...คุณใคร่ครวญ   ...เสร็จแล้วนำศพของคุณพินิจไปเถอะ   ต่อจากนั้นเธอก็เริ่มกอดศพอีก   จะว่าเธอก็ไม่ได้ เพราะเธอรักของเธอ   เป็นยิ่งนัก   ครั้นนำศพของคุณพินิจลงรถ   ยกศพนอนบนเตียง เตรียมที่จะทำพิธีรดน้ำศพ   ในขณะนั้นญาติพี่น้องก็มากันมากมาย   ทั้งญาติ   พี่น้องทั้งลุงขุนสัป  (ขุนสัป ก็คือสัปเหร่อ นั่นเอง) ต่างก็กลุ้มใจไปตาม ๆ กัน   เพราะรอนานแล้วก็ยังไม่ได้รดน้ำศพ   เพราะเหตุว่า คุณ   ใคร่ครวญ แกร่ำไห้พร้อมทั้งกอดศพ   พร่ำพรรณาถึงความดีไม่จบไม่สิ้นสักที
                  ในที่สุดขุนสัป   ก็หมดความอดทนด้วยมาหวนระลึกว่า    ธรรมชาติแห่งหญิง   มักเป็นคนหูเบา    เมื่อแกคิดได้อย่างนี้แล้ว แกก็เดินออกไปนอกศาลา กระซิบกระซาบกับหญิงสาวคนหนึ่ง นุ่งดำห่มดำแสดงว่ามาในงานศพนี้ด้วย     เมื่อหญิงสาวคนดังกล่าวเข้ามาในศาลาแล้ว   ก็สยายผมฟูมฟายน้ำตา   ร้องไห้เสียงดังลั่นศาลา   พลันก็พร่ำพรรณาว่า    " พี่ขา...  พี่พิจขา...โธ่เอ๋ยเวรกรรมแท้   ....ฮือ ฮือ  ไฉนพี่พินิจจึงจาก น้องไปเร็วนัก   โธ่เอ๋ยเพิ่งไปหากันหยก ๆ   ไหนว่าจะซื้อบ้านให้น้อง   ไหนว่าจะซื้อรถให้น้อง  .....ฮือ..ฮือ..ทำไม...ทำไมโกหกน้องว่ายังไม่มี   เมีย   ที่นั่งร้องไห้อยู่นี้ไม่เมียหรอกหรือ   ถ้าอย่างนั้นก็เป็นเมียน้อยใช่ไหม   ฮือ  ฮือ... พร้อมกันนั้นก็ใช้ศีรษะโขกไปที่พื้นศาลาร่ำไห้เสียงดัง    เท่านั้นเองแผนของสัปเหร่อก็เป็นผลสำเร็จ   คุณใคร่ครวญ   ไม่ใคร่ครวญเหมือนชื่อเสียแล้ว   หยุดร้องไห้โดยทันทีพร้อมกันนั้นก็ปล่อยศพผัวลง   หันไปยกขันลงหินที่ทางวัดใส่น้ำไว้สำหรับรดน้ำศพทิ้ง    ทันใดนั่นเองสิ่งที่ทุกคนไม่คาดคิดก็บังเกิดขึ้น   คุณใคร่ครวญก็คว้าขันลงหินดังกล่าว   ทุ่มลงไปที่ศีรษะของผัว   พลันกล่าวว่า  "โธ่เอ๋ย   กูหลงนักหลงหนาว่า   มึงซื่อสัตย์ต่อกู   ในที่สุดมันก็เลวทั้งนั้น "   นั่นแหละทุกคนจึงได้เริ่มพิธี   รดน้ำศพได้และใส่หีบให้เรียบร้อย
จะเห็นได้ว่า  หากคุณใคร่ครวญ   ก่อนที่จะทำก่อนจะพูดอย่างนั้นหากแกใคร่ครวญดูก่อนเหตุการณ์ดังกล่าวก็คงไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน เพราะคุณพินิจแกไม่เคยให้ห่างแกเลยไปไหนไปด้วย นอนไหนนอนด้วย  กินไหนกินด้วย   แกจะเอาเวลาใดไปมีเมียน้อย    ฉะนั้นท่าน  ทั้งหลาย   นิสมฺมกรณํ เสยฺโย   ใคร่ครวญก่อนแล้วจึงทำ   ดีกว่ากันเยอะเลย...
--------------------

พระครูสิริธรรมภาณ (สุเทพ)

๕/มิ.ย./๔๓

b3.gif (3343 bytes)